เมื่อวันที่ 1 – 3 กรกฏาคม 2559 ที่ผ่านมา ครอบครัวเมฆเสรีกุล ท่านเจ้าภาพคอร์สปฏิบัติธรรม ณ สุวนารีสอร์ท ได้จัดคอร์สปฏิบัติธรรมให้เป็นคอร์สพิเศษ ที่เชิญท่านเจ้าภาพคอร์สวิปัสสนากรรมฐานของทางมูลนิธิบุญญานุภาพทุกคอร์ส มาปฏิบัติธรรมร่วมกัน นับเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของท่านเจ้าภาพจากคอร์สต่างๆ โดยท่านพระอาจารย์กิตติเชษฐ์ สิริวฑฺฒโก เมตตาตั้งชื่อคอร์สครั้งนี้ว่า ‘คอร์สชาร์ตพลังชีวิต ลิขิตชีวิตที่ดีใหม่’ คุณจินตนา เมฆเสรีกุล หรือ ซ้อจินตนา หัวเรือใหญ่ของคณะเจ้าภาพแห่งสุวนารีสอร์ท มีความปลาบปลื้มดีใจ และเตรียมพร้อมต้อนรับเจ้าภาพแต่ละท่านที่ให้การตอบรับและเดินทางมามาร่วมคอร์สวิปัสสนากรรมฐานในครั้งนี้ แม้บางท่านมีภาระกิจหน้าที่การงาน รวมถึงสายฝนที่ตกหนักระหว่างการเดินทาง แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อจิตที่มุ่งมั่นของแต่ละท่าน
ฟ้าหลังฝน เช้าวันที่ 1 ก.ค. บรรยากาศในสุวนารีสอร์ทสดชื่นด้วยกลิ่นความชุ่มชื้นของไอดินและแมกไม้ ผู้เข้าปฏิบัติธรรมต่างสัมผัสได้ถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ซึ่งมีความเป็นสัปปายะอย่างยิ่ง และเมื่อฟังธรรมเทศนาจากท่านพระอาจารย์กิตติเชษฐ์ในเช้าวันนั้นด้วยแล้ว ทุกท่านต่างปิติในธรรมและอิ่มอกอิ่มใจกันทั่วหน้า โดยช่วงสายของวัน ท่านเจ้าภาพบางท่านได้เดินทางมาถึงที่สุวนารีสอร์ท ซึ่งบางท่านไม่เคยพบปะกันมาก่อน ก็ได้มาพบกันทีนี่ นับเป็นความยินดีและเป็นความร่วมแรงร่วมใจของท่านเจ้าภาพทุกๆท่านที่จะช่วยกันหมุนกงล้อพระธรรมจักรให้กว้างไกลออกไป ทุกท่านได้ร่วมปฏิบัติธรรมด้วยกัน ฝึกพุทธานุสสติกรรมฐาน เดินจงกรมแบบธรรมคีตะ นั่งสมาธิ เจริญจิตเจริญเมตตา รับประทานอาหารแบบกำหนด เจริญสติตามรู้ตามดู และร่วมฟังธรรมะบรรยาย
ผู้บรรยายธรรมในครั้งนี้คือ คุณวาริยา บวรธรานนท์ (คุณเดียร์) คุณภัทรานิษฐ์ พุฒิพัฒนาศักดิ์ (คุณชง) คุณรัชญา อะทะวงค์ (คุณนิด) และคุณรัชนิกร วิบูลยเสข (คุณต้อง) จิตอาสาเข้มแข็ม ผู้ติดตามช่วยงานคอร์สปฏิบัติธรรมทุกคอร์สวิปัสนากรรมฐานที่ผ่านมาทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง โดยทุกท่านได้มาบรรยายประสบการณ์และแบ่งปันเทคนิคและวิธีการฝึกจิตเจริญพุทธานุสสติ ธรรมานุสสติ และสังฆานุสสติ
ในคอร์สปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานครั้งนี้ ท่านพระอาจารย์ได้เมตตาแสดงธรรมในช่วงบ่ายของวันที่ 2 และเป็นการแสดงธรรมยาวถึง 4 ชั่วโมงเต็ม เพื่อตอบคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมและดำเนินชีวิตประจำวันของท่านเจ้าภาพทุกท่าน หนึ่งในคำถามที่มีผู้ปฏิบัติธรรมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเราได้มีการถ่ายทอดสดให้ผู้ฟังธรรมทางบ้านได้ติดตามชมด้วยเช่นกัน ท่านพระอาจารย์ได้เมตตาแนะนำไว้ดังนี้
“เราจะ balance ระหว่างทางโลกทางธรรมยังไง เมื่อเราอยู่ทางโลกเราก็ต้องมีฆราวาสธรรม ถ้าเราปรารถนานิพพาน เราก็ต้องทำอะไรเพื่อมรรคผลนิพพาน ทางโลกเราก็เป็นภรรยาและเป็นแม่ที่ดี การที่เราไปถ่ายรูปแนว lifestyle ลงหนังสือและสอดแทรกธรรมะในการให้สัมภาษณ์บ้าง เราก็อย่ายินดียินร้าย กายทำ แต่เจตนาต้องบริสุทธิ์ ทำเพื่อความหลุดพ้น เพื่อนิพพาน แล้วไม่บาป ถ้าบาปคือเราคิดอกุศล จิตปรุงแต่งไปทางอกุศลจิต เวลาทำก็ดูว่าตอนนี้จิตเป็นยังไงอยู่ กุศลหรืออกุศล พอเรามีสติรักษาจิตได้ เวลาทำอะไร มันก็เป็นไปตามเจตนาของจิต
อย่างตอนใส่บาตร บางคนใส่ด้วยความศรัทธานอบน้อม บางคนใส่ไปเฉยๆตามหน้าที่ บางคนก็รำคาญพระมาทำไมทุกวัน ใส่ลงไป… ตึ้ง! ใส่บาตรเหมือนกันแต่จิตต่างกัน เข้าใจมั๊ย”
“ถ่ายรูปลงหนังสือ ถ้าเจตนาเราไม่ได้ต้องการให้เค้ามาหลง คำพูดคำจาของเราที่ออกมา ก็จะเป็นไปตามเจตนาของจิตเรา
อย่างเรื่องแต่งตัวสวย สวยด้วยใจมีธรรมะ กับ ใจมีราคะ มันไม่เหมือนกันนะ ถ้าสวยแล้วทำให้เกิดจิตปรุงแต่งมีราคะ กับ แต่งเพื่อสังคมหรือความพอเหมาะซื้อของ shopping เราก็ต้องดูว่ามันจำเป็นมั้ย ของในตู้เรามีมั้ย เผลอๆซื้อมาไม่ได้ใส่เลย มันเป็นความหลง ถ้าเกินความจำเป็น ให้มีสติว่าเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย ส่วนเรื่องซื้อของให้ลูก ต้องเลี้ยงแบบสมเด็จย่าเลี้ยงในหลวง ในหลวงจะรู้ว่ากว่าจะได้ของมาต้องออมเงิน ไม่ใช่ว่าลูกอยากได้อะไร ก็เอาไปเลยๆ ซื้อของให้ลูกก็ต้องสอนด้วย ต้องสอนให้ลูกรู้จักค่าของเงิน ไม่งั้นใช้เงินเหมือนกระดาษ เงินมันทำร้ายจิตพุทธะได้ง่ายมากเลย”
กำหนัดราคะจบไป ถ้าเราเชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า สุขกว่าการเสพกาม คือการไม่เสพ การประพฤติพรหมจรรย์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการไปนิพพาน แต่คนที่มีคู่ก็ทำหน้าที่ไป ‘ฆราวาสธรรม’ หรือจูงมือกันไปนิพพาน ค่อยๆละกันไป ค่อยๆให้กำลังใจกันไป”
– ท่านพระอาจารย์กิตติเชษฐ์ สิริวฑฺฒโก –
คอร์สนี้ไม่เพียงแต่เป็นการมารวมกันของคณะเจ้าภาพผู้ใจบุญและมีเมตตาจัดคอร์สปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานให้แก่บุคคลทั่วไปหรือพนักงานในบริษัทของตนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเป็นคอร์สปฏิบัติธรรมที่แสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของท่านเจ้าภาพทุกท่าน ไม่เพียงแต่ความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ที่เปี่ยมล้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นของท่านเจ้าภาพที่จะร่วมกันฝึกฝนตนให้เข้มแข็ง เป็นที่พึ่งแก่ทั้งตนเองและผู้อื่นต่อไป
เพื่อเป็นแรงกำลังเป็นกองทัพธรรมสานปณิธานของท่านพระอาจารย์กิตติเชษฐ์ให้เป็นจริง เมตตาต่อทุกชีวิต โปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์ พบสุขที่แท้จริง ด้วยสติปัฏฐาน4 พรหมวิหาร4 และพุทธานุสสติ
ขออนุโมทนาบุญกับท่านพระอาจารย์กิตติเชษฐ์ คณะพระสงฆ์แม่ชี ท่านเจ้าภาพทุกท่าน ผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมทุกท่าน รวมถึงท่านผู้ให้บริการทุกๆท่านค่ะ สาธุๆๆ
